หญิงชราช็อก แจกันเก่าในบ้านราคาพันกว่าบาท กลายเป็นของจักรพรรดิ์จีนราคาหลักล้าน

หญิงชราช็อก แจกันเก่าในบ้านราคาพันกว่าบาท กลายเป็นของจักรพรรดิ์จีนราคาหลักล้าน

เป็นเรื่องราวสุดโชคดีของหญิงชาวยุโรปวัย ที่ใครจะคาดคิดว่าชีวิตบั้นปลายจะพลิกผัน เมื่อแจกันที่เธอซื้อมาเก็บไว้กว่า 50 ปีในราคา 44 ปอนด์ แท้จริงจะมีมูลค่าถึง 7 ล้านปอนด์ เพราะมันคือแจกันของจักรพรรดิจีน แจกันดังกล่าวถูกขาดทอดตลาด 

“ มันเป็นความมหัศจรรย์ที่แจกันอันบอบบางพิเศษนี้รอดชีวิตมาได้ครึ่งศตวรรษในบ้านที่รายล้อมไปด้วยสัตว์เลี้ยงนับไม่ถ้วนของหญิงชรา ทั้งหมาและแมว” Nicolas Chow ประธานของ Sotheby แห่งเอเชียกล่าวในแถลงการณ์ก่อนการขายทอดตลาดแจกัน

แจกันที่ตกแต่งด้วยลวดลายดอกไม้สีน้ำเงินและสีขาวถูกสร้างขึ้นสำหรับจักรพรรดิเฉียนหลงซึ่งปกครองจีนตั้งแต่ปี 1735 ถึง 1796 ซึ่งถูกสร้างขึ้นในเครื่องผลิตเครื่องลายครามจีน ในปริมาณจำกัด ระหว่างปี 1742 ถึง 1743 สำหรับจักรพรรดิ

แจกันดังกล่าวตกทอดมาจนถูกปี 1954 ถูกขายในราคา 56 ดอลลาห์สหรัฐ จากนั้นได้ขายอีกครั้งในปีนั้นในราคา  101 ดอลลาห์สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ถูกเก็บไว้ในวังแห่งความบริสุทธิ์แห่งสวรรค์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังต้องห้ามของปักกิ่งสินค้าชิ้นนี้ได้รับการชื่นชมจากจักรพรรดิในเรื่องการออกแบบ

Van Rosenthal ที่ปรึกษาด้านศิลปะกล่าวว่าผู้หญิงชราเจ้าของแจกันเชิญเขาเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคุณค่าของคอลเลกชันของเธอซึ่งมีเยอะมาก แต่เขาจะไม่เคยคาดหวังว่าจะค้นพบแจกันใบของจักรพรรดิ

“แมวสี่ตัวของเธอเดินไปมาอย่างอิสระท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ เธอชี้ให้เห็นแจกันทองบางส่วนของจีนบนตู้ซึ่งเธอรู้ว่าเป็นสิ่งที่พิเศษและมีค่า

“ในขณะที่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในงานศิลปะจีน ยังสังเกตว่านี่ไม่ใช่แจกันจีนทั่วไป”

แจกันใบนี้เคยถูกเก็บรักษาอยู่ในพระตำหนักเฉียนชิง ภายในพระราชวังต้องห้าม โดยจักรพรรดิเฉียนหลงเคยตรัสชื่นชมความงดงามในการออกแบบแจกันใบนี้ ต่อมาได้ถูกลักลอบนำออกมาจากพระราชวังพร้อมสมบัติอีกหลายชิ้น

ในเวลานี้ ณ ภูมิภาคยุโรป การช่วยเหลือในการฆ่าตัวตาย และการการุณยฆาตนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายในประเทศเบลเยี่ยม, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์ และสเปน รวมไปถึงประเทศที่ยังคงอยู่ในพื้นที่สีเทา (ที่ถือว่าถูกกฎหมายตามคำสั่งศาล แต่ไม่ได้มีการบังคับใช้งานเป็นกฎหมาย) อย่าง ฝรั่งเศส และเยอรมันนี

จีนระงับ 2 เที่ยวบินจากไทย เหตุพบผู้โดยสารติดโควิด-19

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 63 กรมการบินพลเรือนของจีนประกาศระงับเที่ยวบินพิเศษไทยไลอ้อนแอร์ เส้นทางกรุงเทพ-กว่างโจว และเส้นทางกรุงเทพ-เทียนจิน ของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากพบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19

จากแถลงการณ์ของกรมการบินพลเรือนจีน ระบุว่า พบผู้โดยสาร 6 ราย เดินทางมาจากประเทศไทยไปกว่างโจว วันที่ 7 ก.ค. ติดเชื้อโควิด-19 และพบผู้โดยอีก 5 ราย เดินทางจากกรุงเทพไปเทียนจิน วันที่ 10 ก.ค. มีผลตรวจออกมาว่าติดเชื้อเช่นกัน

ทั้งนี้ ตามนโยบายการบินระหว่างประเทศของจีน ระบุว่า สายการบินจะถูกระงับเส้นทางการบินไปยังจีนชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ หากพบผู้โดยสารที่เดินทางมาจีนติดเชื้อโควิด 5 ราย และหากมีผู้โดยสารในเที่ยวบินติดเชื้อ 10 ราย ก็จะถูกระงับเส้นทางการบินเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์

ขณะเดียวกันหากทางสายการบินไม่พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจีนในแต่ละเส้นทางเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ทางสายการบินสามารถเพิ่มเที่ยวบินไปยังจีนได้ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศจีนขณะนี้มีทั้งสิ้น 83,611 รายและไม่มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อในปักกิ่งติดต่อกันเป็นระยะเวลา 10 วันแล้ว

ขณะที่ทางสำนักข่าว CNN ได้รับการยืนยันจากสายการบินที่ผู้ป่วยเดินทางนั้น มีผู้โดยสารเกือบเต็มเครื่อง มีเหลืองเพียงที่นั่งชั้นธุรกิจหรือบิสสิเนสคลาสแค่หกที่เท่านั้น อย่างไรก็ตามทางทางการจีนไม่ได้ยืนยันว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากพื้นที่ใดหรือติดเชื้อเมื่อไหร่

หากอ้างอิงตามองค์การอนามัยโลกนั้น ผู้ป่วยโควิด-19 จะใช้เวลา 5-6 วันก่อนแสดงอาการป่วย อย่างไรก็ตามอาจใช้ได้นานถึง 14 วันก่อนแสดงอาการ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าโควิดโอมิครอนมีเวลาฟักตัวและแสดงอาการที่ต่างจากโควิดสายพันธุ์อื่นๆหรือไม่

โดย นาย ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกว่า พวกเขามีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าวัคซีนประสิทธิภาพสูงยังได้ผลกับโควิดทุกสายพันธุ์ และไม่พบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าโควิดโอมิครอนจะสามารถหลบหลีกวัคซีนอื่นได้ดีกว่าโควิดกลายพันธุ์อื่นๆ

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า